การบันทึกเสียงโฆษณาให้เด็กๆชั้นอนุบาล3ฟัง

วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

บันทึกครั้งที่12

อาจารย์ให้นักศึกษาหากิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมให้ความรู้กับผู้ปกครองมา 1 กิจกรรม
กิจกรรมส่งเสริมให้ความรู้ผู้ปกครอง (กิจกรรมรักการอ่าน)
การสร้างนิสัยรักการอ่านให้กับเด็กเป็นสิ่งที่ควรส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง
การอ่านฝึกความคิดจินตนาการ การอ่านเป็นการสื่อภาษาด้วยตัวหนังสือทำให้ต้องมีการแปลเป็นภาพ เป็นการบริหารสมอง
การอ่านฝึกการคิดอย่างมีระบบ การอ่านเป็นการเรียนรู้คำต่างๆ ทำให้มีการจัดระเบีบความคิด และพัฒนาความคิดอย่างมีระบบ การอ่านจะช่วยให้เด็กมีระบบความคิดที่ดี
การอ่านฝึกสมาธิ การอ่านช่วยให้เด็กจดจ่ออยู่กับตัวหนังสือไดเป็นเวลานานซึ่งจะช่วยให้เด็กมีสมาธิและมีความอดทนในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
การอ่านฝึกทักษะการเรียนรู้ที่สูงขึ้น เด็กจำเป็นต้องได้รับความรู้จากการอ่านเพื่อเพิ่มพูนความรู้ให้ลึกซึ้งสมกับวัยที่เติบโต
การแก้ปัญหาให้เด็กรักการอ่าน คือ ให้ความรักความเข้าใจ ไม่ว่าเด็กจะชอบอ่านหนังสือหรือไม่ก็ตาม การแก้ไขปัญหาควรเริ่มที่ความรักความเข้าใจ และตามมาด้วยความตั้งใจที่จะช่วยเหลือ ครูผู้สอนและผู้ปกครองไม่ควรตำหนิ เปรียบเทียบกับเด็กอื่นหรือข่มขู่ ลงโทษ เพราะจะทำให้เด็กยิ่งเกลียดการอ่านมากขึ้น ครูผู้สอนและผู้ปกครองควรค่อยๆสื่อสารให้เด็กเห็นความสำคัญของการอ่าน และให้กำลังใจ รวมทั้งมีการเปิดโอกาสให้เด็กหาแนวทางส่งเสริมการอ่านพัฒนาทักษะการอ่านของตนให้ดีขึ้น
กิจกรรมรักการอ่านช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางด้านภาษาที่ดี ช่วยให้เด็กมีการคิดอย่างเป็นระบบ ช่วยฝึกสมาธิ และฝึกความคิดจินตนาการ

บันทึกคั้งที่11



การบันทึกเสียงโฆษณาให้เด็กชั้นอนุบาล3ฟัง

เด็กๆให้ความสนใจในเครื่องอัดเสียงและมีการซักถามถึงเครื่องอัดเสียง

เมื่อมีการเปิดเคคื่องบันทึกเสียงโฆษณาเด็กตั้งใจฟังแต่ไม่ยอมพูดตามโฆษณาที่เด็กๆได้ยิน

พูดเพียงแต่ว่าหนูเคยฟังและเคยดูโฆณษนมถั่วเหลืองกับโฟร์โมสต์

วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

บันทึกครั้งที่10



วันนี้อาจารย์ให้นักศึกษาทำมายแม็บนิทาน
มีลักษณะ,ที่อยู่อาศัย,อาหาร,ประโยชน์และข้อดี,ข้อเสีย
การเลือกนิทาน
1.ควรเลือกเรื่องที่น่าสนใจ
2.เลือกให้เหมาะสมกับวัย
และวันนี้ได้มีการวิเคราะห์นิทานเรื่องแม่ไก่สีแดง
มีสัตว์ 4 ตัว คือ แม่ไก่สีแดง เป็ด หมู และแมว
วันหนึ่งแม่ไก่สีแดงได้ข้าวมากระบุงนึง แม่ไก่สีแดงถามเพื่อนๆว่าใครจะช่วยฉันตำข้าวบ้าง เพื่อนๆก็ตอบว่าไม่ แม่ไก่สีแดงจึงว่าถ้าอย่างนั้นฉันจะตำข้าวเอง เมื่อตำข้าวเสร็จแม่ไก่สีแดงก็ถามเพื่อนๆว่า ใครจะช่วยฉันโม้แป้งบ้าง เพื่อนๆก็ตอบว่าไม่ แม่ไก่สีแดงตำข้าว โม้แป้ง คั้นกะทิ ติดไฟ แคะขนมครกด้วยตนเอง ไม่มีใครช่วยแม่ก่สีแดงทำเลย ขนมครกส่งกลิ่นหอม เมื่อแม่ไก่สีแดงแคะขนมครกขึ้นจากเตา แม่ไก่สีแดงจึงถามเพื่อนๆว่า ใครจะช่วยฉันกินขนมครกบ้าง เพื่อนๆพากันรีบตอบฉันจะช่วย แม่ไก่สีแดงบอกกับเพื่อนๆว่า อย่ามาช่วยเลย ฉันทำทุกอย่างได้เอง แม่ไก่สีแดงจึงกินขนมครกคนเดียวอยู่เพียงลำพังเพราะอยากให้เพื่อนๆรู้สึกผิด และได้คิด เป็นคติสอนใจในเรื่องความสามัคคี การช่วยเหลือกัน ไม่เอาเปรียบกัน ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ

บรรยากาศในห้องเรียน
วันนี้อากาศเย็นสบาย เพื่อนๆทุกๆคนตั้งใจทำงาน

บันทึกครั้งที่9

วันศุกร์ ที่ 5 เดือนกุมพาพันธ์ พ.ศ. 2553
อาจารย์ให้นักศึกษาเสนองานสังเกตเด็กอนุบาลสาธิตมหาวิทยาลัยจันทรเกษม
กลุ่มแรก ได้เล่านี้ให้เด็กนิทานฟัง นิทานชื่อเรื่องว่า วันโชคดีของยิ้มแย้ม
กลุ่มที่สอง จากการฟังนิทาน นิทานที่นำไปเล่า มีดังนี้ เรื่องกุ๊กไก่ปวดท้อง
กลุ่มที่ห้า เกมปฏิบัติตามคำสั่ง
ชั้นอนุบาล 1/1 น.ส.จันทร์จีรา วิธีการสอน ให้เด็กทำตามก่อน แล้วเด็กก็ทำตามเพราะอยากได้ลูกโป่ง
อนุบาล1/2 น.ส. อัญชลี วิธีการสอน เริ่มจากการถามน้องก่อนว่า หูหนูอยู่ไหน เด็กบ้างคนเห็นครูจับเสื้อ เด็กก้จับตาม พอถามพอเด็กเริ่มเข้าใจโดยมีครูเป็นแบบ
อนุบาล2 น.ส.นันทนากรณ์ วิธีการสอน มีภาพให้เด็กดู แล้วถามคำถาม ว่า ขาอยู่ไหนคะ เด็กก็ยังเฉยๆแต่หลังจากนั้นเด็กก็เริ่มปฏิบัติตามได้
อนุบาล 3 น.ส.ชญานิศ วิธีการสอน ให้เด็กเคลื่อนไหวร่างกายขั้นพื้นฐาน นำเพลงมาประกอบ เริ่มจาก ช้า-เร็วไปเรื่อยๆ
เด็กบ้างคนปฏิบัติดามคำสั่งได้ดีกว่าเด็กบางคน
กลุ่มที่เจ็ด สังเกตชั้นอนุบาลสอง เล่านิทานให้เด็กฟัง เรื่อง ขบวนการแปลงฟัน สังเกตเด็กชั้นอนุบาลสาม น.ส. พัชฤทธิ์
เล่านิทานพร้อมภาพประกอบ
บรรยากาศในห้องเรียน
วันนี้เปลี่ยนห้องเรียนใหม่ บรรยากาศอากาศไม่ค่อยเย็นมากนัก สบายๆ ห้องมืด